

อรัญญานี..จะคอยพี่…อยู่ที่นี่
แม้ร้อยปี….นานเท่านาน….ยังคงหวัง
ขอเฝ้าคอย…แม้จะสิ้น….ลมพลัง
ชาติหน้ายัง…คงคอยพี่…อยู่ที่เดิม

ถ้ำผานางคอยอยู่ที่บ้านผาหมู อำเภอร้องกวาง เป็นถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่นี้มีความสวยงาม มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำนางคอย ปัจจุบันจึ่งมักนิยมเรียกว่า ถ้ำผานางคอย ตัวถ้ำอยู่บนผาสูงประมาณ 50 เมตร หน้าถ้ำมีลานหินกว้าง ตัวถ้ำมีความลึก ที่มีลักษณะยาวขนานไปในระดับพื้นดินประมาณ 150 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร ภายในถ้ำเป็นพี้นดินเรียบ บางตอนมีเหวลึก ผนังถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่สวยงาม ส่งแสงสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อต้องแสงสว่างไปตลอดความยาวของถ้ำ เมื่อเกือบถึงปากสุดของถ้ำที่ทะลุมีทางออกกว้าง ปริเวณกลางถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน เรียกว่า ผานางคอย เป็นจุดสำคัญของถ้ำนี้

ตำนานของถ้ำนี้เป็นที่เล่าขนานกันมานานแล้วไม่แพ้กับตำนาน ของพระลอ เลยละครับ เนื้อจากตำนานนี้มีมานาน จึงทำให้การกล่าวขานของตำนานนี้ถูกแปรเปลี่ยนไป จากปากต่อปากจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งพอจะหาได้คราวๆ ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
ตำนานที่ ๑
ณ ถ้ำแห่งนี้เองที่มีตำนานความรักระหว่างทหารต่ำศักดิ์กับเจ้าหญิง(เจ้านาง)สูงศักดิ์คู่หนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ พ.ศ.1700 อาณาจักรแสนหวีมีความเจริญรุ่งเรืองมาก(สันนิษฐานว่าแสนหวีในที่นี้คือแสนหวีที่สิบสองปันนาหรือที่เชียงรุ่ง ไม่ใช่แสนหวีหลวงเมืองเงี้ยว) กษัตริย์ปกครองอย่างสงบสุข พระองค์ทรงมีราชธิดาองค์หนึ่งมีสิริโฉมงดงามมาก มีน้ำพระทัยดี มีพระนามว่า เจ้าหญิงอรัญญานี ครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงได้เสด็จโดยชลมารคแล้วเรือล่ม หัวหน้าฝีพายได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงไว้ได้ ทั้งสองจึงเกิดรักกัน จนเจ้าหญิงทรงครรภ์ พระราชบิดาทราบเรื่องก็ทรงพิโรธ จึงได้ขังเจ้าหญิงไว้ แต่ฝ่ายชายก็หาโอกาสช่วยพาหนีลงมาทางใต้ โดยมีกองทหารไล่ตามอย่างกระชั้นชิด เมื่อมาทันที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เจ้าหญิงถูกยิงด้วยธนู ฝ่ายชายจึงพาไปหลบซ่อนในถ้ำเพื่อรักษาพยาบาล เจ้าหญิงเห็นว่าทหารกำลังตามมา จึงให้ฝ่ายชายหนีไปก่อน และบอกว่าจะคอยฝ่ายชายอยู่ในถ้ำนี้ตลอดไป ถ้ำนี้จึงได้ชื่อว่า ถ้ำผานางคอย หรือถ้ำนางคอย
ตำนานที่ ๒
อีกตำนานบอกว่า หัวหน้าฝีพายพานางหนีไปอยู่ในถ้ำ และออกไปหาอาหาร เคราะห์ร้ายทหารตามมาพบและจัดการสังหารเขาเสีย องค์หญิงรู้ว่า สามีคงเสียชีวิตแล้ว จึงตั้งอธิษฐานว่า จะรอคอยให้สามีกลับมาตลอดไป ด้วยอานุภาพสัจจะ นางจึงกลายเป็นหิน เงยหน้ามองปากถ้ำ รอคอยการกลับมาของชายคนรักจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้.
ตำนานที่ ๓
อีกตำนานบอกว่า เมื่อเจ้าครองนครทรงทราบก็สั่งให้ทหารออกติดตามคนทั้งสอง ทหารขี่ม้าทันทั้งสองคนที่ซอกเขาแห่งหนึ่ง และยิงธนูไปหมายจะเอาชีวิตชายหนุ่ม แต่ธนูพลาดไปถูกนางอรัญญนีได้รับบาดเจ็บสาหัส สามีของนางจึงพานางเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ นางอรัญญนีรู้ตัวว่า คงไม่รอดชีวิต จึงขอร้องให้สามีหนีเอาตัวรอดโดยให้สัญญาว่าจะรออยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป ชาย หนุ่มจึงจำใจต้องจากไปตามคำขอร้องของนาง ส่วนนางอรัญญนีก็นั่งมองดูสามีควบม้าหนีห่างไปจนลับตา และสิ้นใจตายอยู่ในถ้ำแห่งนั้นลานที่นางนั่งดูสามีควบม้าจากไปนั้น ต่อมาเรียกว่า ลาน นางคอย ส่วนถ้ำแห่งนั้นก็ได้ชื่อว่า ถ้ำผานาง


จุดสำคัญต่าง ๆ ในถ้ำผานางคอย
1. คูหาสวรรค์วิเศษ สถานที่แสนสวยงาม และปลอดภัยที่พระนางอรัญญณี (นางคอย) ใช้เป็นที่สถิต เพื่อรอคอยพระสวามรด้วยความรักอันมั่นคง

2. เทพอารักษ์นครา ดินแดนเหล่าเทพยาดาผู้คอยปกป้องนางอรัญญณี และลูกน้อย

3. นาคาสถิต สถานที่สถิตขององค์นาคา ผู้รักษาดินแดนของพระนางอรัญญณี

4. งามพิศอนงค์สนาน ธารน้ำใสสะอาดสวยงามที่ไหลมาจากสรวงสวรรค์ พระนางอรัญญณีใช้เป็นที่ชำระร่างกาย

5. หิมพานต์วิจิตร ภาพเนรมิตที่เหล่าเทพยาดาประทานให้กับพระนางอรัญญณี ได้ชื่นชมเพื่อความรื่นรมย์คลายทุกข์โศก

6. เนรมิตม่านแก้ว ม่านแก้วที่วิจิตรงดงามที่เหล่าเทพยาดาได้เนรมิตประดับไว้ในคูหาสวรรค์แห่งนี้

7. มรกตเพริดแพร้ววิจิตรา อัญมณีอันล้ำค่าแหล่งกำเนิดพลังจากสวรรค์ที่เทประทานให้แก่มวลมนุษย์

8. บูชาพระมุนี สถานที่บำเพ็ญตะบะขององค์พระฤาษีประจำคูหาสวรรค์

9. นทีชลเนตร สถานที่พระนางอรัญญณีร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกโทมนัสหลั่งล้นชลเนตรดั่งสายนที

10. ธานเทพอธิษฐาน ธานทิพย์จากสวรรค์ ที่เป็นสื่อรับรู้ความรักความโทมนัสและคำอธิษฐานของพระนางอรัญญณี

11. คชสารพิทักษ์ โคลงช้างที่คอยปกป้องดินแดนแห่งความรักของพระนางอรัญญณี

12. ลานรักพระนาง ห้องโถงและห้องบรรทมที่พระนางอรัญญณีใช้เป็นที่ฟูมฟักทะนุถนอมลูกน้อยด้วยความรัก เพื่อรอคอยพระสวามีอันเป็นที่รัก

13. อลังการแห่งรักอรัญญณี ปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระนางอรัญญณีที่อุ้มลูกน้อยรอคอยสามีอันเป็นที่รัก ด้วยแรงอธิษฐานจนกลายเป็นหินสถิตย์อยู่ในคูหาสวรรค์แห่งนี้
ตำนานที่ ๒
อีกตำนานบอกว่า หัวหน้าฝีพายพานางหนีไปอยู่ในถ้ำ และออกไปหาอาหาร เคราะห์ร้ายทหารตามมาพบและจัดการสังหารเขาเสีย องค์หญิงรู้ว่า สามีคงเสียชีวิตแล้ว จึงตั้งอธิษฐานว่า จะรอคอยให้สามีกลับมาตลอดไป ด้วยอานุภาพสัจจะ นางจึงกลายเป็นหิน เงยหน้ามองปากถ้ำ รอคอยการกลับมาของชายคนรักจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้.
ตำนานที่ ๓
อีกตำนานบอกว่า เมื่อเจ้าครองนครทรงทราบก็สั่งให้ทหารออกติดตามคนทั้งสอง ทหารขี่ม้าทันทั้งสองคนที่ซอกเขาแห่งหนึ่ง และยิงธนูไปหมายจะเอาชีวิตชายหนุ่ม แต่ธนูพลาดไปถูกนางอรัญญนีได้รับบาดเจ็บสาหัส สามีของนางจึงพานางเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ นางอรัญญนีรู้ตัวว่า คงไม่รอดชีวิต จึงขอร้องให้สามีหนีเอาตัวรอดโดยให้สัญญาว่าจะรออยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป ชาย หนุ่มจึงจำใจต้องจากไปตามคำขอร้องของนาง ส่วนนางอรัญญนีก็นั่งมองดูสามีควบม้าหนีห่างไปจนลับตา และสิ้นใจตายอยู่ในถ้ำแห่งนั้นลานที่นางนั่งดูสามีควบม้าจากไปนั้น ต่อมาเรียกว่า ลาน นางคอย ส่วนถ้ำแห่งนั้นก็ได้ชื่อว่า ถ้ำผานาง

ปัจจุบันจากนโยบายของนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ได้เข้าพัฒนาปรับปรุงบริเวณถ้ำทั้งภายในและภายนอกทั้งหมด โดยเฉพาะบริเวณจุดสำคัญตามตำนานต่างๆ ภายในถ้ำผานางคอย ได้พัฒนาให้ถ้ำมีชีวิต จัดทำทางเดินเพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยว เพิ่มระบบแสงสีสัน เกิดความสวยงามเสริมจากธรรมชาติสร้าง พร้อมทั้งสร้างระบบน้ำเลียนธรรมชาติ จนเกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดแพร่ โดยนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ กล่าวว่า ถ้ำผานางคอยในอดีตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดแพร่ ต่อมาระยะหลังช่วงสิบปีที่ผ่านมาถูกละเลย จนได้รับโอนมาอยู่ในความดูแลของ อบจ.แพร่ จึงต้องการให้กลับมามีสำคัญเหมือนเช่นอดีตอีกครั้งหนึ่ง และเกิดความยั่งยืนตอลดไป

จุดสำคัญต่าง ๆ ในถ้ำผานางคอย
1. คูหาสวรรค์วิเศษ สถานที่แสนสวยงาม และปลอดภัยที่พระนางอรัญญณี (นางคอย) ใช้เป็นที่สถิต เพื่อรอคอยพระสวามรด้วยความรักอันมั่นคง

2. เทพอารักษ์นครา ดินแดนเหล่าเทพยาดาผู้คอยปกป้องนางอรัญญณี และลูกน้อย

3. นาคาสถิต สถานที่สถิตขององค์นาคา ผู้รักษาดินแดนของพระนางอรัญญณี

4. งามพิศอนงค์สนาน ธารน้ำใสสะอาดสวยงามที่ไหลมาจากสรวงสวรรค์ พระนางอรัญญณีใช้เป็นที่ชำระร่างกาย

5. หิมพานต์วิจิตร ภาพเนรมิตที่เหล่าเทพยาดาประทานให้กับพระนางอรัญญณี ได้ชื่นชมเพื่อความรื่นรมย์คลายทุกข์โศก

6. เนรมิตม่านแก้ว ม่านแก้วที่วิจิตรงดงามที่เหล่าเทพยาดาได้เนรมิตประดับไว้ในคูหาสวรรค์แห่งนี้

7. มรกตเพริดแพร้ววิจิตรา อัญมณีอันล้ำค่าแหล่งกำเนิดพลังจากสวรรค์ที่เทประทานให้แก่มวลมนุษย์

8. บูชาพระมุนี สถานที่บำเพ็ญตะบะขององค์พระฤาษีประจำคูหาสวรรค์

9. นทีชลเนตร สถานที่พระนางอรัญญณีร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกโทมนัสหลั่งล้นชลเนตรดั่งสายนที

10. ธานเทพอธิษฐาน ธานทิพย์จากสวรรค์ ที่เป็นสื่อรับรู้ความรักความโทมนัสและคำอธิษฐานของพระนางอรัญญณี

11. คชสารพิทักษ์ โคลงช้างที่คอยปกป้องดินแดนแห่งความรักของพระนางอรัญญณี

12. ลานรักพระนาง ห้องโถงและห้องบรรทมที่พระนางอรัญญณีใช้เป็นที่ฟูมฟักทะนุถนอมลูกน้อยด้วยความรัก เพื่อรอคอยพระสวามีอันเป็นที่รัก

13. อลังการแห่งรักอรัญญณี ปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระนางอรัญญณีที่อุ้มลูกน้อยรอคอยสามีอันเป็นที่รัก ด้วยแรงอธิษฐานจนกลายเป็นหินสถิตย์อยู่ในคูหาสวรรค์แห่งนี้