วันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

โครงการตามล่าหาที่สุด


ไปรษณีย์ไทยจับมือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดตัวโครงการ “ตามล่าหาที่สุด” สไตล์แรลลี่ส่งเสริมเที่ยวทั่วไทยให้ครึกครื้นยิ่งขึ้น รณรงค์เขียนโปสการ์ดพร้อมประทับตราที่สุดของเมืองไทย ชิงรางวัลนับล้าน ย้ำบริการใหม่ไปรษณีย์ส่งสัมภาระให้นักท่องเที่ยว 104 พื้นที่ ปณ.ปลายทาง
       
นางสาวอานุสรา  จิตต์มิตรภาพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตลาดและพัฒนาธุรกิจ  บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “ตามล่าหาที่สุด”  ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไปรษณีย์ไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ  โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวไทยร่วมสนุกกับกิจกรรมค้นหาตู้ไปรษณีย์ที่ออกแบบลวดลายพิเศษไม่ซ้ำแบบกัน ซึ่งได้ติดตั้งเป็นจุดแลนด์มาร์กสำหรับถ่ายภาพตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเป็นที่สุดของเมืองไทย รวม 20 จุดทั่วประเทศ

“นอกจากเป็นจุดที่บ่งบอกลักษณะที่สุดของเมืองไทยในแง่มุมต่าง ๆ โดยเราเรียกว่า ตู้ไปรษณีย์แลนด์มาร์กแล้ว นักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจร่วมกิจกรรมยังมีโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่ด้วย เพียงแค่เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ แล้วนำโปสการ์ดหรือไปรษณียบัตรไปขอรับประทับตราที่ระลึกที่สุดของเมืองไทยและตราประทับครบรอบ 50 ปี ททท.  ซึ่งจะมีอยู่แห่งละ 3 จุด โดยหาคำตอบได้ที่ข้างตู้ไปรษณีย์แลนด์มาร์กนั้นๆ พร้อมเขียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ให้ชัดเจน จ่าหน้าส่งมายังโครงการ ‘ตามล่าหาที่สุด’ ตู้ ปณ.2553 สำนักงาน ปณท กรุงเทพฯ 10002 ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2553”
นายประกิตติ์ พิริยะเกียรติ รองผู้ว่าการ ด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า กิจกรรมครั้งนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะการรณรงค์ภายใต้สโลแกน “เมืองไทยใคร ๆ ก็รัก” ตลอดปีนี้ ส่วนรางวัลที่ททท.ร่วมสนับสนุนเพื่อมอบให้แก่ผู้โชคดีในกิจกรรมดังกล่าว มีด้วยกัน 240 รางวัล รวมมูลค่า 1 ล้านบาท ได้แก่ แพ็คเกจท่องเที่ยวภายในประเทศ ห้องพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว และตั๋วเครื่องบินไป-กลับภายในประเทศรายละเอียดจะประกาศให้ทราบเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้จะมีการจับรางวัลจากโปสการ์ดหรือไปรษณียบัตรที่ส่งเข้ามาในวันที่ 6 มิ.ย.2553 ภายในงานเทศกาลท่องเที่ยวไทย ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี 
อนึ่ง ไปรษณีย์ไทยยังมีบริการโลจิสโพสต์พลัส ซึ่งเป็นบริการเสริมจากโลจิสโพสต์ ส่งของใหญ่ทางไปรษณีย์ เพื่อให้บริการขนส่งสัมภาระแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทางไปยังพื้นที่ 104 ปณ.ทั่วประเทศ ตลอดจนบริการส่งพัสดุแบบกล่องเหมาจ่ายราคาเดียว  ราคา 110 และ 120 บาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ปลายทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการส่งของกลับบ้าน หรือส่งของฝากไปให้ญาติมิตร
      
รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ฝ่ายตลาดสื่อสารและขนส่ง โทร. 0 2831 3211 - 2 หรือ Call Center 1545 ในวันและเวลาทำการ หรือเข้าไปดูที่เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th

อนุสาร อ.ส.ท. พฤษภาคม ๒๕๕๓ เที่ยวสนุกสุดสัปดาห์

อนุสาร อ.ส.ท. ชวนคุณผู้อ่านใช้เวลาว่างในวันหยุดเดินทางท่องเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากหลากหลายแหล่งท่องเที่ยวใกล้บ้าน ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องเดินทางไกล แต่ได้อารมณ์และสีสันแปลกใหม่แถมยังสบายสตางค์ในกระเป๋าอีกต่างหาก

ท่อง ธาร ๓ ตลาดน้ำ ล่องเรือหวนคืนสู่บรรยากาศของโมงยามแห่งการค้าขายทางเรือเมื่อครั้งอดีต เที่ยวชมชุมชนบ้านเรือนและวิถีการดำเนินชีวิตที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำเมืองแม่กลอง
ลองของค่ายมวยไทย ร่วมฝึกฝนสุดยอดศิลปะการต่อสู้ที่ยอมรับกันในระดับโลกในค่ายเกียรติบ้านช่อง และค่ายแฟร์เท็กซ์ พัทยา สำนักมวยชั้นแนวหน้าของประเทศไทย
ล่องไพรรายรอบบึงมหัศจรรย์ แห่งอาศัยของมวลหมู่ปักษานานาพันธุ์สีสันชีวิตชีวาแห่งผืนป่าแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
รำลึกอดีตตลาดร้อยปี สนุกจับจ่ายสินค้าและอาหารแบบโบราณในชุมชนการค้าย่านบางพลี นครเนื่องเต คลองสวน และบ้านใหม่ ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ-ฉะเชิงเทรา
เยือนถิ่นชุมชนเก่า ๓ วัฒนธรรม ความแตกต่างอย่างหลากหลายคือความน่าสนใจ เมื่อชาวไทย ชาวจีน และชาวมุสลิม ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ในเขตประเวศและหนองจอก
พรั่งพร้อมด้วย คอลัมน์ประจำครบครัน


พิเศษ...คู่มือ “เข้าใจถิ่น เข้าใจเที่ยว จังหวัดปทุมธานี” เมืองรุ่มรวยวัฒนธรรมแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา
เว็บไซต์อนุสาร อ.ส.ท. http://www.osotho.com/

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Vic Hua Hin ขอเชิญชม สุดสาคร ลิเกร่วมสมัย

เปิดแสดงทุกวันเสาร์ เริ่มเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม – 12 มิถุนายน ศกนี้ เวลาทุ่มครึ่ง
การแสดงลิเก เป็นการแสดงพื้นบ้านแต่โบราณ ที่ถูกสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ดังที่เราสามารถหาชมได้ แต่เนื่องจากสื่อต่างๆ มีมากขึ้นจึงทำให้การแสดงละครลิเกเริ่มลดน้อยถอยลง ผู้ชมหันไปให้ความสนใจกับสื่ออื่นมากขึ้น

ทางผู้จัดจึงได้เล็งเห็นถึงความงามของวัฒนธรรมทางการแสดงที่สวยอย่างลิเก จึงได้หยิบยกวรรณกรรมของสุนทรภู่ เรื่อง พระอภัยมณี ตอนกำเนิดสุดสาคร จัดทำในรูปแบบ ลิเกร่วมสมัย โดยการนำสื่อทางตะวันตกและตะวันออกเข้ามาผสมผสานกันอย่างลงตัว แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์รูปแบบ ของลิเกดั้งเดิม

จุดมุ่งหมายของงานชิ้นนี้ เพื่อรักษาวัฒนธรรมพื้นบ้านให้คงอยู่ และซาบซึ้งในการใช้ภาษาที่สละสลวยผ่าน บทกลอนของสุนทรภู่ ในขณะเดียวกัน นักแสดงยังได้รับการฝึกฝนเพื่อให้เข้าถึงตัวละครทุกตัวผ่านบทกวี และสามารถนำเสนอด้วยความรู้สึกที่เป็นจริง ดั่งตัวละครอย่างสมบูรณ์ ทั้งยังเสนอแนวทางเลือกรูปแบบใหม่ ให้ทันสมัยและสากล มากยิ่งขึ้น

เปิดแสดงทุกวันเสาร์ เริ่มเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม – 12 มิถุนายน ศกนี้ เวลาทุ่มครึ่ง บัตรราคา 1000 , 800 และ 500 บาท (นักเรียน นักศึกษา 150 บาท) 

จำหน่ายบัตรที่... Totalreservation ทุกสาขา โทร 02 833 5555 www.totalreservation.com  วิกหัวหิน โทร 032 827815, 032 827817 www.vichuahin.com  หรือสอบถามข้อมูลที่ ภัทราวดีเธียเตอร์ โทร. 024127287-8 www.patravaditheatre.com

มหัศจรรย์ท่องเที่ยวไทย 2553 (Wonderful Thailand 2010)

วันที่ 20-23 พฤษภาคม 2553 เวลา 11.00-21.00 น.อาคารซี ชั้น 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ขอชวนไปงานท่องเที่ยวที่จะพาคุณไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ และพบกับโปรโมชั่น ร้อนๆ จากโรงแรม รีสอร์ท แพ็คเกจทัวร์ สายการบิน สถานที่ท่องเที่ยว ในราคาสุดคุ้มทั่วไทย วันที่ 20-23 พฤษภาคม 2553 เวลา 11.00-21.00 น.อาคารซี ชั้น 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์



Wonderful Thailand 2010 งานท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ โดยรวบรวมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยว เพื่อเสนอแพ็คเกจท่องเที่ยว ที่พัก สายการบิน ในราคาพิเศษสุด พร้อมรับโปรโมชั่นสุดคุ้มมากมาย และยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย ซึ่งในปีนี้จะพิเศษและยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา โดยได้รวบรวมกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากภาคใต้กว่า 100 บริษัทไว้ในโซน มหัศจรรย์ 2 ฝั่งทะเลใต้ครั้งที่ 2 เพื่อร่วมนำเสนอแพ็คเกจสุดคุ้มและที่พักราคาพิเศษ

สนับสนุนโดย : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
http://www.thailanddiveexpo.com/wonderfulthailand/index.php

สถานที่ท่องเที่ยวช่วงปิดเทอม

ช่วงปิดเทอมทั้งที จะมัวอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทำไม หนังสือก็ไม่ต้องอ่าน การบ้านก็ไม่ต้องทำ ออกไปหากำไรให้กับชีวิต ในช่วงวันหยุดกันดีกว่า เรามีสถานที่ท่องเที่ยว ที่น่าสนใจมานำเสนอ

แหล่งชอปปิ้งในกรุงเทพมหานคร
  
        1. ตลาดคลองถม ถ้าจะบอกว่าแหล่งหาซื้อของเก่า ของมือสอง ราคาถูก ที่ใหญ่ที่สุด และน่าเดินดูที่สุดของกรุงเทพฯ คือ ย่านคลองถมเห็นทีจะไม่ผิด ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันเสาร์ เวลาหลัง 17.00 น. เป็นต้นไป จะเป็นเวลาเริ่มของ “ตลาดไฟฉาย” ซึ่งจะตั้งของขายกันจนถึงวันอาทิตย์ สำหรับบางคนที่ไม่ชอบเดินถือไฟฉายหาของ หรือไม่สนุกกับการต้องเบียดเสียดผู้คนเดินดูของเวลากลางคืนมืด ๆ ก็ขอแนะนำให้เปลี่ยนจากการช็อปค่ำคืนวันเสาร์มาเป็นช่วงเช้าวันอาทิตย์ ณ ที่นี่ ตลาดคลองถมวันอาทิตย์ ตลาดคลองถมวันอาทิตย์ ครอบคลุมบริเวณตั้งแต่ ถ.หลวง ถ.วรจักร ถ.เจริญกรุง ถ.เสือป่า ตามซอกซอยแถวนั้น จะเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่เอาของมาวางขายกันเต็มไปหมด เนื่องจากวันอาทิตย์เป็นวันที่บริษัทห้างร้านแถว ๆ นั้นหยุดจึงสามารถตั้งแผงหน้าร้านได้ สินค้าที่มีขาย เรียกได้ว่าหลากหลายวาไรตี้มีทุกอย่าง เช่น เครื่องมือช่าง อะไหล่รถยนต์ อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า หนัง VDO/VCD/DVD เสื้อผ้า(ที่ไม่เน้นเสื้อผ้าผู้หญิงเหมือนตลาดนัดหน้าห้าง ตลาดนัดตามแหล่งออฟฟิศ) รองเท้าเก่า-ใหม่ ของเล่นเด็ก ของสะสม แสตมป์ ธนบัตรเก่า นาฬิกา อุปกรณ์เครื่องครัว ของเลหลัง ค้างสต็อค และอื่น ๆ เยอะแยะไปหมด
         
2. ถนนข้าวสาร ชื่อของถนนข้าวสารมีที่มา โดยเดิมบริเวณนี้เคยใช้เป็นสถานที่ขายข้าวสาร และในปัจจุบันที่นี่ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวราคาประหยัด เพราะค่าที่พักและย่านสถานบันเทิงยามราตรีนั้นไม่สูงจนเกินไป บนถนนข้าวสารนั้น มีสีสันและชีวิตชีวาค่อนข้างมาก อีกทั้งร้านอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเล็กๆ ริมถนน หรือร้านใหญ่โต ซึ่งล้วนแล้วแต่ราคาไม่แพงเกินไปทั้งสิ้น นอกจากนี้บรรยากาศโดยรวมทั่วไปของที่นี่ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และพวกหนุ่มสาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่มีการแสดงดนตรีนานาชาิติ บนถนนข้าวสารมีบริการมากมายไว้รอต้อนรับคุณๆ อยู่ ตั้งแต่บริการถักผมเปียพร้อมตกแต่งด้วยลูกปัด จนกระทั่งถึงอาหารจานเด่นอย่างผัดไทย เป็นต้น

        
 3. ตลาดนัดจตุจักร สำหรับผู้ที่ชอบซื้อของและต่อรองราคา ที่นี่คือ “สวรรค์ของคุณ” โดยทุกวันพุธและพฤหัสจะเป็นตลาดค้าส่งต้นไม้ ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์นั้นจะเปลี่ยนเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเป็นศูนย์รวมร้านค้ากว่า 8,000 ร้านจากทุกภูมิภาคของประเทศ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 26 โครงการ กลุ่มสินค้ามีตั้งแต่ของแต่งบ้าน ของสะสม ของเก่า เครื่องประดับ งานศิลปะหัตกรรม เฟอร์นิเจอร์ สัตว์เลี้ยง เสื้อผ้า ต้นไม้ หนังสือเก่า อาหารพื้นเมือง สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ อีกมากมาย
         
4.ประตูน้ำ ย่านการค้าเก่าแก่ที่ปัจจุบัน ยังได้รับความนิยมจากเหล่าแม่ค้าขายปลีก และ ชาวต่างประเทศมากมาย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณสี่แยก ที่ ถนน เพชรบุรี ตัดกับ ถนน ราชปรารภ พอดีประตูน้ำ เป็นศูนย์รวมการซื้อขาย เสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใหญ่ พอๆ กับตลาด โบเบ๊ ตลาดค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่อยู่ริมคลอง ผดุงกรุงเกษม หากแต่สินค้าของที่ประตูน้ำจะมีราคาขายปลีกที่ขยับขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ด้วยซอยย่อยมากมาย ตลาดเก่าแก่ อย่าง ตลาดเฉลิมลาภ ประตูน้ำ ซอย 1 และ ซอย 2 ก็มีร้านค้าขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปเกิดขึ้นอยู่ดาษดื่น ซึ่งสินค้าหลายรายการที่เป็นเพียง ของทำเลียนแบบคุณภาพต่ำ ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋า หลากหลายของใช้แทบทุกชนิด เป็นเพียงของเลียนแบบสินค้าดังเท่านั้น 
        
  5. สยามสแควร์ ชื่อนี้ถ้าใครบอกไม่รู้จัก คงถูกเพื่อนล้อว่าเชยแหลก แน่นอน ค่าที่เป็นแหล่งรวบรวมแฟชั่นวัยรุ่นมาเนิ่นนานตั้งแต่ คุณพ่อ คุณแม่ยังหนุ่มสาว จนเดี๋ยวนี้หลานของคุณพ่อ คุณแม่ โตเป็นหน่มเป็นสาวกันแล้วสยามแสควร์ก็ยังเป็นศูนย์รวมของ วัยรุ่น อยู่ดีเพราะนอกจากจะเป็นแหล่งจับจ่ายของวัยรุ่นแล้ว ยังเป็น ที่รวมของสถาบันกวดวิชาต่างๆ อีกด้วย คุณจะพบกับ ร้านขายสินค้าเบรนด์เนม นานาชนิด ร้านหนังสือ ร้านวีดีโอ ร้านขายเทป ซีดี ดีวีดี และยังแถมต่อด้วย แผงลอยขาย เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้จิปาถะไปตลอดทาง หรือถ้าคุณหิวที่นี่มีร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ให้คุณเลือกมากมายตั้งแต่่แผงลอยข้างทางหรือร้านฟาสฟูตส์ หลากหลายยี่ห้อหรือ่ถ้าคุณ ขี้เกียจนั่งตามร้าน จะซื้อขนมนมเนยที่วางขายตาม ข้างทางแล้ว เดินไปกินไปก็ไม่ผิดกติกา 
      
    6. ตลาดนัดธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) การเดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่ยาก มาสนามหลวงถูกก็เป็นอันใช้ได้ เดินผ่าน  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   มาทางด้านหลัง ก็จะเจอแหล่งชอปปิ้ง นั่นก็คือ ท่าพระจันทร์ ซึ่งสถานที่ตรงนี้สำคัญมาก สำหรับคนที่โดยสารเรือเพื่อข้ามไปฝั่งธนบุรีเป็นประจำ ที่นี่มีของขายมากมาย โดยจะเอาใจวัยรุ่นเป็นพิเศษ เพราะรู้กันอยู่ว่าที่นี่ถิ่นของใคร นอกจากของของขายแล้ว ขึ้นชื่ออีกอย่างก็อาหาร รับประทานไป ชมความงามของแม่น้ำเจ้าพระยาไป แหมอะไรจะดื่มดำปานนั้น สำหรับใครที่ไม่ได้แวะเวียนมาแถวนี้บ่อยๆ อาจจะไม่ทราบว่า ด้านในได้มีการปรับปรุงให้สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย น่าซื้อของเป็นอย่างยิ่ง 
       
   7. ตลาดนัดวังหลัง อยู่แถวโรงพยาบาลศิริราช และธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ถ้าจะไปจากธรรมศาสตร์ก็ต้องนั่งเรือข้ามฝากไป เสีย 3 บาท ลงท่าวังหลัง หรือถ้าใครสะดวกนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ไปขึ้นที่ ท่าศิริราช-วังหลัง เดินเข้าไปในซอยอีกนิด ก็เจอของมือ 2 เพียบ! แต่ซอยอาจจะเลี้ยวไปเลี้ยวมามากหน่อย สำหรับมือใหม่หัดไปได้ ก็ลองถามแม่ค้าแถวนั้นดู รับรองไปถึงแน่นอน


ที่มาwww.bangkokgoguide.com
www.zheza.com
www.bangkoktourist.com
www.tttonline.net
www.travelthai.in.th

วันหยุดนี้....ไปนั่งรถไฟเที่ยวกันเถอะ Project 3 มาแล้ว


นายกมลชนก   มุกดา  หัวหน้ากองโฆษณาและส่งเสริมการท่องเที่ยว กล่าวว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการร่วมมือระหว่างการรถไฟฯ (รฟท.) และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โครงการ“เที่ยวรถไฟครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก”  ในรายการ วันหยุดนี้ ....ไปนั่งรถไฟเที่ยวกันเถอะ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ได้นำนักท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ประจวบคีรีขันธ์ สระบุรี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี ฯลฯ มาในครั้งนี้ถือเป็น Project 3 แล้ว โดยมีนายยุทธนา  ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟฯ ร่วมกับ ททท. และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว แถลงข่าว เพื่อเปิดเดินเส้นทางท่องเที่ยวบริเวณสถานีแม่กลอง ซึ่งเส้นทางท่องเที่ยวสายนี้ คือเส้นทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่ - มหาชัย และบ้านแหลม - แม่กลอง  เป็นเส้นทางที่เชื่อว่าหลายคนนักที่ยังไม่รู้จัก  แม้ว่าเส้นทางสายนี้นับอายุได้ 108 ปี แล้ว ประกอบกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงครามกำลังอยู่ในความนิยมของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น การสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม รับประทานอาหารทะเลสด ๆ ที่มหาชัย หรือชมวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำอัมพวา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดร่มหุบ ที่ถือเป็น Hilight ของการเดินทางในครั้งนี้ ซึ่งรายการนี้จะจัดถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีเส้นทาง ดังนี               
- นั่งรถไฟไปตลาดน้ำอัมพวา      ทุกวันเสาร์ ไปเช้าเย็นกลับ ท่านละ 999.- บาท
- นั่งรถไฟเที่ยวเมือง 2 สมุทร     ทุกวันอาทิตย์ ไปเช้าเย็นกลับ ท่านละ 999.- บาท
- นั่งรถไฟเที่ยว3ตลาดน้ำเมือง 2สมุทรฯไปวันเสาร์กลับวันอาทิตย์ท่านละ 2,499.- บาท

นายกมลชนกฯ กล่าวเสริมว่า   เนื่องจากเป็นการร่วมมือระหว่าง ททท. และ รฟท. นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อจองโปรแกรมนำเที่ยว ได้ที่ สมาคมท่องเที่ยว 5 สมาคม 0-2929-0795 , 0-2918-5414,0-2998-0983, 0-2270-1505 และ 0-2237-6046  สายด่วนท่องเที่ยว Call Center 1672 , สายด่วนรถไฟ 1690 (ตลอด 24 ชั่วโมง)


โดย.. ศูนย์ประชาสัมพันธ์และบริการท่องเที่ยว  

วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

กทม.เตรียมพร้อม 5 มาตรการ 5 ด้าน เยียวยาพื้นที่ราชประสงค์-สีลม



  กรุงเทพฯ 10 พ.ค. - กทม.เตรียมพร้อม 5 มาตรการ พื้นฟูย่านราชประสงค์และสีลม หลังการชุมนุมยุติ

นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังประชุมมาตรการฟื้นฟูการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ หลังเหตุการณ์ชุมนุม ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ ว่า กทม.ได้เตรียมความพร้อมมาตรการ 5 ด้าน หรือ 5 Big Moves เพื่อเยียวยาพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ และพื้นที่ถนนสีลม ซึ่งประกอบด้วย ทำความสะอาดครั้งใหญ่  ทำบุญสร้างขวัญกำลังใจ  ให้ร้านค้าจัดกิจกรรมพิเศษ ซ่อมแซมอุปกรณ์ความปลอดภัย และลดหย่อนภาษีโรงเรือนและที่ดิน

ส่วนกรณีโรงเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 5 แห่ง ที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุม  ในสัปดาห์นี้จะเรียกประชุมผู้ปกครองทั้ง 5 โรงเรียน ทำความเข้าใจในการย้ายที่เรียน โดยจะมีการพิจารณาสถานการณ์เพื่อประเมินแบบวันต่อวัน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ.


ที่มา : สำนักข่าวไท

DTC เริงร่าทัวร์

Dtc Travel Center


อาจารย์วีรา พาสพัฒนพาณิชย์ อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี เป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์การท่องเที่ยวและ DTC เริงร่าทัวร์” ณ อาคาร 2 วิทยาลัยดุสิตธานี โดยจัดเป็นศูนย์การเรียนและให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยว การเทียบเวลาโลกตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งรับจัดทัวร์ภายในประเทศในราคาต้นทุนสำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป เพื่อฝึกทักษะด้านการจัดการท่องเที่ยวให้แก่นักศึกษาสาขาวิชาการจัดการท่องเที่ยว ซึ่งการเปิดศูนย์การท่องเที่ยวและ DTC เริงร่าทัวร์นี้เป็นกิจกรรมหนึ่งของงานดุสิตธานีวิชาการครั้งที่ 3
ประวัติความเป็นมา ของ เริงร่าทัวร์

Dtc Travel Center ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ห้องนี้จัดดตั้งอยู่ที่ วิทยาลัยดุสิตธานี ตึก 2 โดยจะให้คำปรึกษากับผู้ที่สนใจในการเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะเดินทางเป็นกลุ่ม หรือ เดินทางส่วนตัว โดยจะรับจองทัวร์ตามโปรแกรมที่เรามี โดยบริษัท Rerng Rah Tour จะมีหน้าที่เป็นผู้รับทำทัวร์ต่างๆ และยังมีโปรแกรมการรับจองตั๋วเครื่องบินผู้ที่สนในสามารถติดต่อสอบถามได้ Tel.02 361 7811



ไทย-ลาวร่วมพิธีสืบชะตาแม่น้ำโขงให้ยั่งยืน จ. เชียงราย

นายธีระ สลักเพรช รมว.กระทรวงวัฒนธรรม เดินทางมาเป็นประธานพิธีสืบชะตาแม่น้ำโขง และวิจิตราภรณ์เชียงรายสายใยลุ่มน้ำโขง ณ.บริเวณผาถ่าน ตำบลเวียง อ.เชียงของ มีนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผวจ.เชียงราย พร้อมด้วย ตัวแทนจากสปป.ลาว พี่น้องชนเผ่าจากหลายหมู่บ้าน และประชาชนชาวเชียงของจำนวนมากมาร่วมพิธีในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการทำพิธีสืบชะตาแม่น้ำโขง และบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแม่น้ำโขง ทั้งนี้เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกในการร่วมกันอนุรักษ์แม่น้ำโขงให้อยู่สืบไปชั่วลูกหลาน หลังจากมีการทำพิธีสืบชะตาบวงสรวงแล้วเป็นการทำพิธีลอยเครื่องสักการะ(สะตวง)และได้มีการปล่อยพันธ์ปลานานาชนิดลงในแม่น้ำโขงจำนวน 2 แสนตัว
จังหวัดเชียงรายทำพิธีสืบชะตาแม่น้ำโขง และวิจิตราภรณ์เชียงรายสายใยลุ่มน้ำโขง ที่ต.เวียง อ.เชียงของ มีตัวแทนจากสปป.ลาว พี่น้องชนเผ่าจากหลายหมู่บ้าน และประชาชนชาวเชียงของจำนวนมากมาร่วมพิธี

นายสุเมธกล่าวว่า แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ใช้ร่วมกันถึง 6 ประเทศ และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมริมฝั่งโขงที่ควรจะร่วมกันอนุรักษ์ นอกจากนี้แม่น้ำโขงยังมีพันธ์ปลามากมายที่หายาก รวมทั้งเป็นสายน้ำแห่งชีวิตที่หล่อเลี้ยงคนในย่านแอเซียอาคเนมาหลายร้อยปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์ สืบสานคุณค่าประเพณีท้องถิ่น ก่อให้เกิดความร่วมมือของภาครัฐ องค์กรเอกชน และภาคประชาชนในด้านนิเวศวัฒนธรรมสองฝั่งโขงและลุ่มน้ำสาขาในประเทศไทยและประเทศลาว จึงร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ หวังว่าจะปลุกประแสการอนุรักษ์แม่น้ำโขงให้มากขึ้น

แหล่งข่าว: วันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7103 ข่าวสดรายวัน หน้า 28

เที่ยวฟรีสามสไตล์ไปกับช้าง

 ไทยเบฟ ร่วมกับ ททท. ชวนเที่ยวฟรี3 สไตล์ไปกับช้าง


บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ครบ 50 ปี แถลงข่าวจัดกิจกรรมเที่ยวฟรีสามสไตล์ ไปกับช้างพร้อม 3 หนุ่มพรีเซ็นเตอร์เบียร์ช้าง จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ Green Adventure , Green Ocean และ Green Urban ชมความงามของป่าไม้ ท้องทะเล และสนุกกับศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย โดยกิจกรรมครั้งแรกจะเริ่ม 8 – 9 พ.ค. 53  กับ Green Ocean  ร่วมปลูกปะการังกับหนุ่ม Chang Draught นอกจากนี้ ทางททท.ยังจัดบิ๊กโปรเจ็ค “50 ที่ 50ปี ท่องเที่ยวไทยเพื่อปลุกกระแสการท่องเที่ยว
ซึ่งผู้ที่สนใจกิจกรรมทั้งหมดนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพื่อร่วมกิจกรรมได้ที่ www.chang.co.th/changtrips ตั้งแต่ เม.ย. – ก.ค. 53