วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

ถ้ำผานางคอย ถ้ำแห่งตำนานรัก



t13
อรัญญานี..จะคอยพี่…อยู่ที่นี่

แม้ร้อยปี….นานเท่านาน….ยังคงหวัง
ขอเฝ้าคอย…แม้จะสิ้น….ลมพลัง
ชาติหน้ายัง…คงคอยพี่…อยู่ที่เดิม


ถ้ำผานางคอยอยู่ที่บ้านผาหมู อำเภอร้องกวาง เป็นถ้ำธรรมชาติขนาดใหญ่นี้มีความสวยงาม มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ถ้ำนางคอย ปัจจุบันจึ่งมักนิยมเรียกว่า ถ้ำผานางคอย ตัวถ้ำอยู่บนผาสูงประมาณ 50 เมตร หน้าถ้ำมีลานหินกว้าง ตัวถ้ำมีความลึก ที่มีลักษณะยาวขนานไปในระดับพื้นดินประมาณ 150 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร ภายในถ้ำเป็นพี้นดินเรียบ บางตอนมีเหวลึก ผนังถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่สวยงาม ส่งแสงสะท้อนเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อต้องแสงสว่างไปตลอดความยาวของถ้ำ เมื่อเกือบถึงปากสุดของถ้ำที่ทะลุมีทางออกกว้าง ปริเวณกลางถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน เรียกว่า ผานางคอย เป็นจุดสำคัญของถ้ำนี้





ตำนานของถ้ำนี้เป็นที่เล่าขนานกันมานานแล้วไม่แพ้กับตำนาน ของพระลอ เลยละครับ เนื้อจากตำนานนี้มีมานาน จึงทำให้การกล่าวขานของตำนานนี้ถูกแปรเปลี่ยนไป จากปากต่อปากจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งพอจะหาได้คราวๆ ซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้


ตำนานที่ ๑

ณ ถ้ำแห่งนี้เองที่มีตำนานความรักระหว่างทหารต่ำศักดิ์กับเจ้าหญิง(เจ้านาง)สูงศักดิ์คู่หนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อ พ.ศ.1700 อาณาจักรแสนหวีมีความเจริญรุ่งเรืองมาก(สันนิษฐานว่าแสนหวีในที่นี้คือแสนหวีที่สิบสองปันนาหรือที่เชียงรุ่ง ไม่ใช่แสนหวีหลวงเมืองเงี้ยว) กษัตริย์ปกครองอย่างสงบสุข พระองค์ทรงมีราชธิดาองค์หนึ่งมีสิริโฉมงดงามมาก มีน้ำพระทัยดี มีพระนามว่า เจ้าหญิงอรัญญานี ครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงได้เสด็จโดยชลมารคแล้วเรือล่ม หัวหน้าฝีพายได้ช่วยเหลือเจ้าหญิงไว้ได้ ทั้งสองจึงเกิดรักกัน จนเจ้าหญิงทรงครรภ์ พระราชบิดาทราบเรื่องก็ทรงพิโรธ จึงได้ขังเจ้าหญิงไว้ แต่ฝ่ายชายก็หาโอกาสช่วยพาหนีลงมาทางใต้ โดยมีกองทหารไล่ตามอย่างกระชั้นชิด เมื่อมาทันที่หุบเขาแห่งหนึ่ง เจ้าหญิงถูกยิงด้วยธนู ฝ่ายชายจึงพาไปหลบซ่อนในถ้ำเพื่อรักษาพยาบาล เจ้าหญิงเห็นว่าทหารกำลังตามมา จึงให้ฝ่ายชายหนีไปก่อน และบอกว่าจะคอยฝ่ายชายอยู่ในถ้ำนี้ตลอดไป ถ้ำนี้จึงได้ชื่อว่า ถ้ำผานางคอย หรือถ้ำนางคอย

ตำนานที่ ๒

อีกตำนานบอกว่า หัวหน้าฝีพายพานางหนีไปอยู่ในถ้ำ และออกไปหาอาหาร เคราะห์ร้ายทหารตามมาพบและจัดการสังหารเขาเสีย องค์หญิงรู้ว่า สามีคงเสียชีวิตแล้ว จึงตั้งอธิษฐานว่า จะรอคอยให้สามีกลับมาตลอดไป ด้วยอานุภาพสัจจะ นางจึงกลายเป็นหิน เงยหน้ามองปากถ้ำ รอคอยการกลับมาของชายคนรักจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้.



ตำนานที่ ๓

อีกตำนานบอกว่า เมื่อเจ้าครองนครทรงทราบก็สั่งให้ทหารออกติดตามคนทั้งสอง ทหารขี่ม้าทันทั้งสองคนที่ซอกเขาแห่งหนึ่ง และยิงธนูไปหมายจะเอาชีวิตชายหนุ่ม แต่ธนูพลาดไปถูกนางอรัญญนีได้รับบาดเจ็บสาหัส สามีของนางจึงพานางเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในถ้ำ นางอรัญญนีรู้ตัวว่า คงไม่รอดชีวิต จึงขอร้องให้สามีหนีเอาตัวรอดโดยให้สัญญาว่าจะรออยู่ที่ถ้ำแห่งนี้ตลอดไป ชาย หนุ่มจึงจำใจต้องจากไปตามคำขอร้องของนาง ส่วนนางอรัญญนีก็นั่งมองดูสามีควบม้าหนีห่างไปจนลับตา และสิ้นใจตายอยู่ในถ้ำแห่งนั้นลานที่นางนั่งดูสามีควบม้าจากไปนั้น ต่อมาเรียกว่า ลาน นางคอย ส่วนถ้ำแห่งนั้นก็ได้ชื่อว่า ถ้ำผานาง




ปัจจุบันจากนโยบายของนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ ได้เข้าพัฒนาปรับปรุงบริเวณถ้ำทั้งภายในและภายนอกทั้งหมด โดยเฉพาะบริเวณจุดสำคัญตามตำนานต่างๆ ภายในถ้ำผานางคอย ได้พัฒนาให้ถ้ำมีชีวิต จัดทำทางเดินเพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยว เพิ่มระบบแสงสีสัน เกิดความสวยงามเสริมจากธรรมชาติสร้าง พร้อมทั้งสร้างระบบน้ำเลียนธรรมชาติ จนเกิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติแห่งใหม่ของจังหวัดแพร่ โดยนายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายก อบจ.แพร่ กล่าวว่า ถ้ำผานางคอยในอดีตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดแพร่ ต่อมาระยะหลังช่วงสิบปีที่ผ่านมาถูกละเลย จนได้รับโอนมาอยู่ในความดูแลของ อบจ.แพร่ จึงต้องการให้กลับมามีสำคัญเหมือนเช่นอดีตอีกครั้งหนึ่ง และเกิดความยั่งยืนตอลดไป

t1

จุดสำคัญต่าง ๆ ในถ้ำผานางคอย
1. คูหาสวรรค์วิเศษ สถานที่แสนสวยงาม และปลอดภัยที่พระนางอรัญญณี (นางคอย) ใช้เป็นที่สถิต เพื่อรอคอยพระสวามรด้วยความรักอันมั่นคง

t2

2. เทพอารักษ์นครา ดินแดนเหล่าเทพยาดาผู้คอยปกป้องนางอรัญญณี และลูกน้อย

t3

3. นาคาสถิต สถานที่สถิตขององค์นาคา ผู้รักษาดินแดนของพระนางอรัญญณี
t4

4. งามพิศอนงค์สนาน ธารน้ำใสสะอาดสวยงามที่ไหลมาจากสรวงสวรรค์ พระนางอรัญญณีใช้เป็นที่ชำระร่างกาย
t5
5. หิมพานต์วิจิตร ภาพเนรมิตที่เหล่าเทพยาดาประทานให้กับพระนางอรัญญณี ได้ชื่นชมเพื่อความรื่นรมย์คลายทุกข์โศก
t6

6. เนรมิตม่านแก้ว ม่านแก้วที่วิจิตรงดงามที่เหล่าเทพยาดาได้เนรมิตประดับไว้ในคูหาสวรรค์แห่งนี้

t7

7. มรกตเพริดแพร้ววิจิตรา อัญมณีอันล้ำค่าแหล่งกำเนิดพลังจากสวรรค์ที่เทประทานให้แก่มวลมนุษย์
t8

8. บูชาพระมุนี สถานที่บำเพ็ญตะบะขององค์พระฤาษีประจำคูหาสวรรค์

t9

9. นทีชลเนตร สถานที่พระนางอรัญญณีร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศกโทมนัสหลั่งล้นชลเนตรดั่งสายนที

t10

10. ธานเทพอธิษฐาน ธานทิพย์จากสวรรค์ ที่เป็นสื่อรับรู้ความรักความโทมนัสและคำอธิษฐานของพระนางอรัญญณี

t11

11. คชสารพิทักษ์ โคลงช้างที่คอยปกป้องดินแดนแห่งความรักของพระนางอรัญญณี

t12

12. ลานรักพระนาง ห้องโถงและห้องบรรทมที่พระนางอรัญญณีใช้เป็นที่ฟูมฟักทะนุถนอมลูกน้อยด้วยความรัก เพื่อรอคอยพระสวามีอันเป็นที่รัก

t13

13. อลังการแห่งรักอรัญญณี ปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระนางอรัญญณีที่อุ้มลูกน้อยรอคอยสามีอันเป็นที่รัก ด้วยแรงอธิษฐานจนกลายเป็นหินสถิตย์อยู่ในคูหาสวรรค์แห่งนี้